ข้อควรรู้ ค่าใช้จ่ายในการลงทุนปล่อยเช่ามีอะไรบ้าง

ข้อควรรู้: ค่าใช้จ่ายในการลงทุนปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าเป็นวิธีสร้างรายได้ที่น่าสนใจ แต่ก่อนตัดสินใจ ผู้ลงทุนควรเข้าใจค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือค่าใช้จ่ายหลักที่นักลงทุนควรคำนึงถึง:

ค่าซื้อทรัพย์สิน

 • เงินดาวน์: โดยทั่วไปอยู่ที่ 10-20% ของราคาทรัพย์สิน 

• ค่าผ่อนรายเดือน: กรณีกู้ซื้อ ควรคำนวณดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนให้ชัดเจน 

• ค่าธรรมเนียมการโอน: ประมาณ 2% ของราคาประเมิน 

• ค่าจดจำนอง: 1% ของวงเงินจำนอง (กรณีกู้ซื้อ) 

• ภาษีธุรกิจเฉพาะ: 3.3% ของราคาขาย (กรณีถือครองน้อยกว่า 5 ปี) 

• อากรแสตมป์: 0.5% ของราคาซื้อขาย

ค่าปรับปรุงและตกแต่ง

• ค่าซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด: เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา หลังคารั่ว 

• ค่าทาสีใหม่: ทั้งภายในและภายนอก เพื่อเพิ่มความสวยงามและมูลค่า 

• ค่าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่ง: เช่น เตียง ตู้เสื้อผ้า โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ 

• ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า: เช่น แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า

ค่าใช้จ่ายประจำ

• ค่าส่วนกลาง: กรณีคอนโด อาจคิดเป็นรายเดือนหรือรายปี 

• ค่าประกันภัยทรัพย์สิน: ป้องกันความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม ฯลฯ 

• ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: คำนวณตามมูลค่าทรัพย์สิน 

• ค่าสาธารณูปโภค: น้ำ ไฟ อินเทอร์เน็ต (กรณีรวมในค่าเช่า)

ค่าบริหารจัดการ

• ค่าโฆษณาหาผู้เช่า: เช่น ลงประกาศในเว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ 

• ค่าทำความสะอาดระหว่างผู้เช่า: ทำความสะอาดครั้งใหญ่เมื่อเปลี่ยนผู้เช่า 

• ค่าจ้างผู้จัดการทรัพย์สิน: อาจคิดเป็น 5-10% ของค่าเช่า

ค่าซ่อมแซมฉุกเฉิน

• ควรกันเงินไว้ประมาณ 5-10% ของรายได้ค่าเช่าต่อปี 

• ครอบคลุมการซ่อมแซมที่ไม่คาดคิด เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย ท่อน้ำแตก

ค่าใช้จ่ายในช่วงว่างผู้เช่า

• ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน: เพื่อรักษาสภาพทรัพย์สิน 

• ค่าดูแลรักษาทรัพย์สิน: เช่น ค่าทำความสะอาด ค่าดูแลสวน

ภาษีเงินได้จากค่าเช่า

• ต้องนำรายได้ค่าเช่ามาคำนวณภาษีเงินได้ประจำปี 

• สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามที่กฎหมายกำหนด

ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน

• แม้ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายจริง แต่มีผลต่อการคำนวณผลตอบแทน

• อาคารคิดค่าเสื่อม 5% ต่อปี เฟอร์นิเจอร์คิด 20% ต่อปี

ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

  • เผื่อเงินสำรองอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายรวม
  • พิจารณาทำประกันภัยที่ครอบคลุม เช่น ประกันอัคคีภัย ประกันน้ำท่วม
  • ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร กฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้อง
  • ติดตามสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ อัตราค่าเช่าในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ
  • พิจารณาใช้บริการนายหน้าหรือบริษัทจัดการทรัพย์สินมืออาชีพ
  • วางแผนการปรับปรุงทรัพย์สินระยะยาวเพื่อรักษามูลค่าและความน่าสนใจ
  • วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดและประมาณการรายได้

การเข้าใจค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประเมินผลตอบแทนที่แท้จริงได้แม่นยำยิ่งขึ้น ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรวิเคราะห์ตัวเลขอย่างรอบคอบและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนของคุณจะประสบความสำเร็จและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

Share the Post: