พิจารณาขนาดเตียงให้เหมาะสม
ควรเลือกขนาดเตียงให้เหมาะกับสรีระ และพื้นที่ห้องนอน โดยทั่วไปแล้ว เตียงควรมีความกว้างมากกว่าส่วนสูงของเราอย่างน้อย 15-20 ซม. และมีความยาวมากกว่าความสูงราว 20-30 ซม. เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับขยับตัวได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ ควรเผื่อพื้นที่ว่างโดยรอบเตียงสำหรับการลุกนั่งและเดินด้วย
เลือกความแข็งของที่นอนให้พอดี
ความแข็งของที่นอนมีผลอย่างมากต่อสุขภาพกระดูกและกล้ามเนื้อ หากที่นอนแข็งเกินไป อาจทำให้ปวดตามจุดต่างๆ แต่หากที่นอนนุ่มเกินไป ก็อาจทำให้หลังและข้อต่อยวบ ไม่ได้รับการพยุงที่ดี โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยหรือชอบนอนตะแคง ควรเลือกที่นอนค่อนข้างนุ่ม ส่วนผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากหรือชอบนอนหงาย ควรเลือกที่นอนค่อนข้างแข็ง เพื่อช่วยรองรับน้ำหนักได้ดีขึ้น
คำนึงถึงวัสดุที่นอน
วัสดุและส่วนประกอบของที่นอนก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา โดยที่นอนแต่ละประเภทก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่น ที่นอนยางพารา จะมีความยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศได้ดี แต่อาจมีกลิ่นเหม็นในช่วงแรก ส่วนที่นอนสปริง จะให้การโอบอุ้มที่ดี มีราคาถูกกว่า แต่มักมีอายุการใช้งานสั้นกว่า เป็นต้น ดังนั้นควรศึกษาคุณสมบัติและลองสัมผัสที่นอนจริง เพื่อเลือกวัสดุที่เหมาะกับเราที่สุด
เช็กระบบระบายอากาศ
ที่นอนที่มีการระบายอากาศได้ดี จะช่วยลดความอับชื้นและป้องกันเชื้อรา ไรฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภูมิแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้อยู่แล้ว ดังนั้นควรเลือกที่นอนที่มีระบบระบายอากาศที่ดี มีช่องลมหรือรูพรุนช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ทดลองนอนก่อนตัดสินใจซื้อ
ก่อนตัดสินใจซื้อเตียงนอน ควรทดลองนอนจริง โดยอาจจะนอนหงาย ตะแคง คว่ำ หรือพลิกตัวไปมา สัก 10-15 นาที เพื่อประเมินความรู้สึกสบายและการรองรับน้ำหนักว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่ การทดลองนอนจะทำให้เรามั่นใจได้มากขึ้นว่า เตียงและที่นอนที่เราเลือกนั้น จะมอบการพักผ่อนที่ดีให้เราได้จริงๆ
อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อเตียงราคาถูกเกินไป
แม้เตียงราคาถูกจะช่วยประหยัดงบได้ แต่การที่เราใช้เวลาอยู่บนเตียงนอนมากถึง 1 ใน 3 ของชีวิต การลงทุนซื้อเตียงนอนที่มีคุณภาพสักหน่อย จึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว แต่หากงบจำกัด ให้เน้นลงทุนกับที่นอนคุณภาพดีไปก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเตียงใหม่ในภายหลังก็ได้