เริ่มต้นด้วยการเลือกธีมหรือสไตล์หลักให้กับห้องก่อน เช่น สไตล์โมเดิร์น สแกนดิเนเวียน วินเทจ หรือบูทีค จากนั้นให้ผสมผสานเฟอร์นิเจอร์จากสไตล์อื่นๆ เข้าไปเพื่อสร้างลุคที่แตกต่าง เช่น หากเลือกสไตล์โมเดิร์นเป็นหลัก ลองเติมความคลาสสิกด้วยเก้าอี้หุ้มกำมะหยี่สีเข้ม หรือความน่ารักด้วยโซฟาทรงกลมสีพาสเทล

นอกจากนี้ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์จากวัสดุที่แตกต่างกัน ก็ช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องได้เป็นอย่างดี เช่น การจับคู่โต๊ะไม้กับเก้าอี้พลาสติก ตู้เหล็กกับเก้าอี้หวาย หรือชั้นวางของแบบกระจกกับม้านั่งไม้อัด เป็นต้น อย่ากลัวที่จะลองนำวัสดุที่ดูไม่น่าเข้ากันมารวมไว้ด้วยกัน แต่ต้องมั่นใจว่ามีจุดร่วมบางอย่างที่ทำให้ดูกลมกลืน

สีสันก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ให้เลือกใช้โทนสีที่ตัดกัน แต่ยังคงความกลมกลืน เช่น การหยิบเอาสีเข้มอย่างสีเขียวมะกอกมาใช้กับผนังสีขาว แล้วเลือกเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนอย่างเทาและครีมมาตกแต่ง ความแตกต่างของสีจะช่วยสร้างลุคที่สะดุดตา แต่ก็ยังรู้สึกสบายตาในเวลาเดียวกัน

การมิกซ์ลวดลายก็ช่วยทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ลองนำลายทางมาจับคู่กับลายจุด เติมลายกราฟิกให้กับพื้นที่ว่าง หรือหยิบเอาลายดอกไม้หวานๆ มาไว้บนหมอนอิง รับรองว่าจะเปลี่ยนความจำเจให้กลายเป็นความน่าตื่นเต้นได้อย่างแน่นอน

ถ้ายังไม่มั่นใจ ให้ลองหาแรงบันดาลใจจากภาพในนิตยสารหรือเว็บไซต์ตกแต่งบ้าน แล้วค่อยๆ ปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง หรือหากมีงบประมาณจำกัด ลองมองหาบริษัทรับตกแต่งห้องที่มืออาชีพเจ๋งๆ สไตล์ดี ราคาไม่แรง อย่างเซิร์ฟเดคเคอร์ ก็ช่วยประหยัดและเพิ่มเสน่ห์วินเทจให้กับห้องได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
