1. เลือกโซฟาที่เหมาะสม
เพราะโซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์หลักของห้องนั่งเล่น ดังนั้นจึงควรเลือกขนาดที่เหมาะกับพื้นที่และจำนวนคนในบ้าน เน้นความนุ่มสบายแต่ต้องมีการรองรับที่ดี หากมีพื้นที่จำกัด อาจเลือกโซฟาเบดที่สามารถปรับเป็นเตียงนอนได้
เพิ่มเติม: อาจพิจารณาวัสดุหุ้มโซฟาให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น หากมีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ควรเลือกผ้าที่ทำความสะอาดง่ายหรือหนังเทียมคุณภาพดี สีของโซฟาควรเข้ากับโทนสีโดยรวมของห้อง แต่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทั้งหมด การใช้โซฟาสีเข้มหรือสีสันสดใสเป็นจุดโฟกัสของห้องก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ทำให้ห้องดูน่าสนใจขึ้นได้เหมือนกันค่ะ
2. จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เอื้อต่อการสนทนา
จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้หันหน้าเข้าหากัน สร้าง “conversation area” ที่ทำให้ผู้คนสามารถนั่งคุยกันได้อย่างสะดวก อาจลองใช้พรมขนาดใหญ่เป็นตัวกำหนดพื้นที่ดูได้ค่ะ
เพิ่มเติม: ระยะห่างระหว่างที่นั่งควรอยู่ในช่วง 3-8 ฟุต เพื่อให้การสนทนาเป็นไปอย่างธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิดผนังทั้งหมด การดึงเฟอร์นิเจอร์ออกมาจากผนังเล็กน้อยจะช่วยสร้างมิติและทำให้ห้องดูกว้างขึ้น นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงเส้นทางเดินในห้อง ควรจัดให้มีพื้นที่เดินผ่านได้สะดวกเพื่อให้ไม่เป็นการเบียดกับเฟอร์นิเจอร์ค่ะ
3. เพิ่มที่นั่งเสริม
นอกจากโซฟาหลัก อาจลองมองหาที่นั่งเสริมสำหรับแขกที่มาเยือน เช่น เก้าอี้พักผ่อน (armchair) หรือ บีนแบ็ก ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
เพิ่มเติม: เก้าอี้พับหรือสตูลขนาดเล็กเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับที่นั่งเสริม เพราะสามารถเก็บได้ง่ายเมื่อไม่ใช้งาน หรือเบาะรองนั่งขนาดใหญ่ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถใช้เป็นที่นั่งหรือที่วางเท้าได้ ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด การเลือกโต๊ะกลางที่มีที่นั่งซ่อนอยู่ด้านใต้ ก็เป็นไอเดียที่ชาญฉลาดเช่นกันค่ะ
4. ใส่ใจเรื่องแสงสว่าง
ใช้ไฟหลายระดับ ทั้งไฟเพดาน ไฟตั้งพื้น และโคมไฟตั้งโต๊ะ เพื่อปรับบรรยากาศได้ตามต้องการ ติดตั้งสวิตช์หรี่ไฟเพื่อควบคุมความสว่างได้
เพิ่มเติม: การใช้หลอดไฟสมาร์ทที่สามารถปรับสีและความสว่างได้ผ่านแอพพลิเคชันในโทรศัพท์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และอย่าลืมใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ โดยอาจพิจารณาเลือกผ้าม่านที่สามารถกรองแสงได้ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีค่ะ
5. เลือกโทนสีที่ผ่อนคลาย
ใช้โทนสีอ่อนหรือสีกลางเป็นหลัก เช่น เบจ เทา หรือฟ้าอ่อน แล้วเพิ่มสีสันด้วยหมอนอิง ผ้าม่าน หรืองานศิลปะ
เพิ่มเติม: การใช้สีในห้องนั่งเล่นควรคำนึงถึงหลักจิตวิทยาของสี เช่น สีฟ้าอ่อนช่วยให้รู้สึกสงบ สีเขียวช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติ ส่วนสีอุ่นอย่างครีมหรือเบจอ่อนช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง นอกจากนี้ การใช้สีสันสดใสในปริมาณน้อยจะเป็นการช่วยสร้างจุดเด่นและความมีชีวิตชีวาให้กับห้องได้ค่ะ เช่น หมอนอิงสีสด ภาพศิลปะ หรือแจกันดอกไม้สีสดใส
6. จัดพื้นที่เก็บของให้เพียงพอ
มีชั้นวางหนังสือ ตู้เก็บของ หรือโต๊ะข้างที่มีลิ้นชัก เพื่อเก็บของใช้จำเป็นและลดความรกรุงรัง
เพิ่มเติม: พิจารณาใช้เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ เช่น โต๊ะกลางที่มีช่องเก็บของ หรือม้านั่งที่เปิดฝาได้ สำหรับเก็บผ้าห่มหรือหมอน ชั้นวางของลอยติดผนังก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด การจัดระเบียบของตกแต่งบนชั้นวางให้สวยงามก็เป็นทั้งการเก็บของและตกแต่งห้องไปในตัวด้วยค่ะ
7. เพิ่มความเป็นธรรมชาติ
นำต้นไม้หรือดอกไม้มาประดับเพื่อเพิ่มความสดชื่นและกรองอากาศ
เพิ่มเติม: เลือกต้นไม้ที่ดูแลง่ายและเหมาะกับสภาพแสงในห้อง เช่น ต้นไทรใบสัก (Fiddle Leaf Fig) สำหรับมุมที่มีแสงมาก หรือต้นลิ้นมังกร (Snake Plant) สำหรับมุมที่มีแสงน้อย นอกจากต้นไม้จริง การใช้วอลล์เปเปอร์ลายธรรมชาติหรือภาพวาดทิวทัศน์ก็สามารถเพิ่มบรรยากาศธรรมชาติให้กับห้องได้เช่นกันค่ะ