การเลือกโทนสีและวัสดุที่สร้างความหรูหรา
สีและวัสดุเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการสร้างบรรยากาศแบบ Art Deco การเลือกสีหลักที่เป็นเอกลักษณ์ควรเริ่มจากโทนสีดำ ซึ่งใช้เป็นสีหลักในการสร้างความเข้มและความลึกให้กับห้อง เหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่หรือผนังบางส่วน ต่อมาคือสีทองที่จะเพิ่มความหรูหราและความมีระดับ นิยมใช้สำหรับการตกแต่งในรายละเอียด เช่น กรอบกระจก ขอบประตู หรือโคมไฟ ส่วนสีเงินจะช่วยสร้างความทันสมัยและความมันวาว มักใช้กับเฟอร์นิเจอร์โลหะหรือกระจกเงา นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสีเสริมอย่างน้ำเงินเข้ม เขียวมรกต หรือม่วงเข้ม เพื่อสร้างความโดดเด่นและมีเสน่ห์ให้กับห้อง
การจัดวางองค์ประกอบและลวดลายเรขาคณิต
ลวดลายเรขาคณิตถือเป็นหัวใจสำคัญของสไตล์ Art Deco โดยการจัดวางต้องคำนึงถึงความสมดุลและความต่อเนื่อง การใช้รูปทรงเหลี่ยมและสามเหลี่ยมในการตกแต่งผนัง พื้น หรือเฟอร์นิเจอร์จะช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับห้อง ลายซิกแซกจะช่วยสร้างความเคลื่อนไหวและพลังให้กับพื้นที่ ส่วนลายพัดกระจายจะช่วยสร้างจุดโฟกัสและความน่าสนใจ การเลือกใช้วอลล์เปเปอร์ลายเรขาคณิตหรือการทาสีสร้างลวดลายบนผนังจะช่วยเพิ่มมิติให้กับห้อง สำหรับพื้นควรเลือกกระเบื้องหรือพรมที่มีลวดลายเรขาคณิตชัดเจน และเฟอร์นิเจอร์ควรเลือกชิ้นงานที่มีลวดลายสอดคล้องกับธีมหลัก
การเลือกเฟอร์นิเจอร์และการจัดวาง
เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Art Deco จำเป็นต้องมีความโดดเด่นทั้งรูปทรงและวัสดุ การเลือกโซฟาควรเป็นแบบหนังเรียบหรือผ้ากำมะหยี่ที่เน้นรูปทรงเรียบง่ายแต่หรูหรา โต๊ะกลางควรใช้วัสดุกระจกหรือหินอ่อนที่มีขอบโครเมียมตกแต่ง ส่วนตู้และชั้นวางควรเน้นรูปทรงเรขาคณิตและใช้วัสดุไม้เนื้อดีหรือโลหะ การจัดวางควรเป็นแบบสมมาตรเพื่อเน้นความสมดุล สร้างจุดโฟกัสด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเด่น และต้องเว้นพื้นที่ว่างให้เหมาะสม ไม่แน่นจนเกินไป
การใช้แสงและการตกแต่งเสริม
แสงไฟและการตกแต่งเสริมมีความสำคัญในการเพิ่มมิติและบรรยากาศให้สมบูรณ์ การติดตั้งโคมไฟระย้าเป็นจุดเด่นกลางห้องจะช่วยสร้างความหรูหรา ไฟติดผนังควรเลือกแบบที่มีดีไซน์เรขาคณิต และควรมีไฟซ่อนเพื่อสร้างแสงอ่อนๆ รอบห้อง สำหรับองค์ประกอบตกแต่งเสริม ควรเลือกงานศิลปะที่มีลวดลาย Art Deco ใช้กระจกเงาเพื่อสร้างมิติและความกว้างให้กับห้อง และเลือกเครื่องประดับตกแต่งที่มีรูปทรงเรขาคณิตเพื่อเสริมความสมบูรณ์ให้กับการตกแต่ง
การตกแต่งห้องสไตล์ Art Deco นั้นต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการเลือกชิ้นงานหลักก่อนของตกแต่งเสริม คำนึงถึงการใช้งานจริงควบคู่กับความสวยงาม และไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่ทั้งหมด สามารถปรับปรุงเฟอร์นิเจอร์เดิมให้เข้ากับสไตล์ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ห้องที่สวยงาม หรูหรา และใช้งานได้อย่างลงตัว